วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

ถนอมส้นเท้า ไม่ให้แตก

เคล็ดลับสุขภาพดี

แนะวิธี "ถนอมส้นเท้า" ไม่ให้แตก ช่วยเสริมบุคลิกภาพ



เท้าเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยให้เราเคลื่อนที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว และเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความสะอาดรวมทั้งบุคลิกภาพที่ดีของเราด้วย ถ้าเท้ามีสุขอนามัยที่ไม่ดีมีบาดแผลมาก หรือมีอาการส้นเท้าแตก นอกจากจะทำให้เกิดความเจ็บปวดรำคาญและขาดความมั่นใจแล้วยังอาจทำให้บาดแผลติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายจนทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาได้

รศ.ดร.พิมลพรรณ พิทยานุกุล คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความรู้ว่า คนที่มีอาการส้นเท้าแตกปัจจัยสำคัญอันดับแรก คือ อายุที่มากขึ้นส่งผลให้ผิวทุกส่วนของร่างกายไม่เฉพาะส้นเท้าเกิดอาการแห้ง เนื่องจากผิวหนังชั้นล่างเริ่มไม่ผลิตน้ำมันรวมทั้ง มีปัจจัยอื่นช่วยเสริม อาทิ คนที่ไม่ดูแลผิวหนังบริเวณส้นเท้าและใช้เท้ามาก นอกจากนี้การสวมใส่รองเท้าไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น สวมรองเท้าส้นสูงบีบและแข็งเกินไปจะทำให้เกิดตาปลา และส้นเท้าแตกได้ เนื่องจากผิวหนังจะต้องสร้างเซลล์ผิวหนังให้หนาขึ้นเพื่อรองรับหรือทนแรงกระทบกระแทก ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผิวบริเวณดังกล่าวเกิดความหยาบกร้าน

อย่างไรก็ตามสาเหตุและปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นสามารถป้องกันและรักษาได้เช่นกันด้วยวิธี
ล้างเท้าทั้งสองข้างทุกวันโดยแช่น้ำอุ่นผสมสบู่ประมาณ 10 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง ภายหลังจากทำความสะอาดเท้าแล้วและก่อนนอนควรชโลมด้วยครีมบำรุงผิวให้ทั่วและควรนวดฝ่าเท้าเพื่อช่วย ให้เท้าเนียนนุ่มเป็นการทำให้เท้า ผ่อนคลายเป็นประจำนับเป็นปัจจัยช่วยป้องกันปัญหาโรคเท้าอื่น ๆ ได้ และควรเลือกซื้อ ครีมที่มีสารชุ่มชื้น เช่น ยูเรียครีม แต่ต้องไม่ทิ้งครีมตกค้างบริเวณซอกนิ้วเพราะจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นจากการหมักหมมของเชื้อจุลินทรีย์
ควรเปลี่ยนรองเท้าถุงเท้าทุกวัน และนำรองเท้าไปทำความสะอาดและตากแห้ง ซึ่งแนะนำให้ใช้รองเท้าสลับกันสองคู่ เพื่อนำคู่ที่ ใส่แล้วไป ผึ่งแดด เวลาออกนอกบ้าน ไม่ควรสวมรองเท้าแตะและ
ควรทาครีมกันแดดที่เท้าเช่นเดียวกับผิวหนังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย

หรือหากใครที่มีอาการส้นเท้าแตกหรือเป็นตาปลาแล้วไม่ควรจัดการด้วยวิธีใช้มีดโกนมาตัดหนังหนา ๆ ที่ส้นเท้าหรือตาปลาเป็นอันขาด เพราะจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่เท้าบางรายแตกจนเห็นเลือดซิบ ๆ และมีโรคแทรกซ้อน เช่น เบาหวาน ไฮโปไทรอยด์ หรือบางรายที่เป็นเนื่องจากอ้วนมีน้ำหนักตัวมากไป กดทับเท้ามาก ๆ และต้องยืนนาน ๆ หรือเดินบนพื้นแข็ง ๆ ด้วยเท้าเปล่า ซึ่งถ้าปล่อยไว้ติดเชื้อที่แผลมีโอกาส เป็นบาดทะยักสูง

รศ.ดร.พิมลพรรณ บอกถึง วิธีดูแลเบื้องต้นสำหรับคนที่ส้นเท้าแตก คือ ใช้ครีมบำรุงผิวเข้มข้นทาบริเวณที่ หนา ๆ 2-3 ครั้งก่อนนอน จากนั้นใช้ถุงพลาสติกที่ใหม่และสะอาดมาห่อหุ้มเท้าจนถึงเช้า วิธีนี้เป็นการทำเซาน่าให้เท้าด้วยตนเอง เป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นและหล่อลื่นผิวที่รวดเร็ว โดยเนื้อครีมจะแทรกซึมเข้าผิวได้ดี ทำ เช่นนี้ 1-3 วันจะพบว่าเท้าเนียนขึ้นอย่างชัดเจน

เมื่อส้นเท้านุ่มขึ้นไม่มีอาการเจ็บแล้วควรใช้หินขัดเท้าค่อยๆ ขัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกทีละน้อยไม่ควรขัดทีละมาก ๆ เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยตัวยาซาลิไซลิค แอร์ซิด ซึ่งมีความเป็นกรดสูงช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกจากผิว ทาวันละ 1-2 ครั้งทุกวันติดต่อกัน 1-2 สัปดาห์จะพบว่าผิวหนังแห้ง ๆ ทยอยหลุดออกเวลาอาบน้ำ ส้นเท้าของเราก็จะได้ผิวใหม่ที่เนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้านอีกต่อไป.


ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น